อลูมิเนียม วัสดุคุณสมบัติทนทาน น้ำหนักเบา และใช้งานได้หลากหลาย ทำให้เป็นหนึ่งในชิ้นส่วนสำคัญของงานสถาปัตยกรรม แต่รู้ไหมว่า กระบวนการผลิตอลูมิเนียมนั้น ปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าถึง 1.1 พันล้านตันต่อปี เนื่องจากต้องพึ่งพาโรงหลอมที่ใช้พลังงานสูง ซึ่งปัจจัยสำคัญที่บ่งบอกว่าปล่อยมลพิษมากหรือน้อยก็คือแหล่งที่มาของพลังงานไฟฟ้านี่เอง
.
และความน่าสนใจก็คือ ปัจจุบันประเทศไทยเราได้มีอลูมิเนียมที่ได้รับการรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร (CFO) และคาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์ (CFP) รายแรกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากบริษัท ไทยเม็ททอล อลูมิเนียม ซึ่งได้มีการพัฒนาวัตถุดิบอลูมิเนียมหมุนเวียนที่มีค่าคาร์บอนต่ำ คือ “Thai Metal Green Billet™” จากกระบวนการหลอมวัตถุดิบเอง ควบคู่กับระบบพลังงานความร้อนหมุนเวียน ซึ่งมีค่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนเพียง 4.73 คาร์บอน (ตัน) /บิลเลท (ตัน) ทำให้สามารถลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 60%
.
ทั้งยังมีการปรับปรุงเครื่องจักรให้มีการใช้พลังงานได้อย่างคุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็นระบบบำบัดน้ำเสีย อากาศ และฝุ่นละออง ทำให้สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 3,758 ตันต่อปี หรือเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ใหญ่ 150,000 ต้น และมีระบบจัดการขยะ ที่นำเศษเหลือของชิ้นส่วนประตู หรือหน้าต่าง กลับมารีไซเคิลให้กลายเป็นสินค้าใหม่อีกครั้ง
.
นับว่าการปรับตัวครั้งนี้ นอกจากส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ก็ยังเป็นไปเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการโลกอย่าง CBAM ของสหภาพยุโรป ที่มีอลูมิเนียมเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ต้องรายงานข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกประกอบด้วย เรียกได้ว่าใครปรับตัวเร็วก่อน คนนั้นก็มีพื้นที่ในตลาดโลกได้ก่อนใครด้วยเช่นกัน
ขอบคุณแหล่งที่มา : NetZeroCarbon
